ไม้แดงคือไม้เนื้อแข็งที่ลักษณะเนื้อไม้ค่อนข้างแน่น ทนทาน และรองรับน้ำหนักได้ดี คุณสมบัติเด่นของเนื้อไม้นี้มีสีน้ำตาลอมแดง ลายไม้มีสีเข้มสวยงาม และมีจุดดำแทรกในเนื้อไม้บ้างบางส่วน ยิ่งใช้งานไปนาน ๆ สีแดงก็จะยิ่งเข้มมากขึ้น ไม่ค่อยพบปัญหาเรื่องปลวก หรือแมลง ต้านทานไฟได้ดี และยังเป็นไม้ที่ราคาไม่สูงมากนัก จึงได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางทั้งงานก่อสร้าง และเฟอร์นิเจอร์ชนิดต่าง ๆ
อย่างไรก็ดี ไม้แดงมีข้อด้อยเนื่องจากมีความแข็งค่อนข้างมาก จึงทำให้ไม้แดงมีโอกาสยืดหดตัวได้สูง จึงต้องระมัดระวังในการใช้งาน เช่นการเว้นช่องว่างเพื่อป้องกันการขยายตัวของไม้ โดยทั่วไปไม้เเดงจะมีอายุการใช้งานเฉลี่ย 10 -15 ปี
ข้อมูลทั่วไปของต้นแดง
ไม้แดง หรือ ต้นแดง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Xylia xylocarpa เป็นพรรณไม้ที่จัดอยู่ในวงศ์ถั่ว (Fabaceae หรือ Leguminosoae) และอยู่ในวงศ์ย่อยสีเสียด (Mimosoideae หรือ Mimosaceae)
ชื่อภาษาอังกฤษ คือ Iron wood
ชื่อพื้นเมืองอื่นๆ ได้แก่ จะลาน,คว้าย,ไควม,จาลาน,ปราน,ตะกร้อม,สะกรอม,ซะกร็อฺม ฯลฯ
สายพันธุ์ของต้นแดง
ไม้แดงมีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด พบตามพื้นที่ป่าที่แตกต่างกันดังนี้
- Xylia xylocarpa (Roxb.) Taub เป็นชนิดที่มีขนาดใหญ่ มักขึ้นตามป่าดิบชื้นและป่าเบญจพรรณ ส่วนใบจะมีลักษณะเกลี้ยง ส่วนปลายเกสรตัวผู้จะมีต่อมซึ่งเป็นชนิดที่เราจะกล่าวถึง
- Xylia kerrii Craib & Hutch. มีขนาดเล็กกว่าชนิดแรก ลักษณะของท้องใบจะเป็นขน ส่วนปลายเกสรตัวผู้จะไม่มีต่อม
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลักษณะโดยทั่วไปเป็นไม้ยืนต้นชนิดผลัดใบที่มีขนาดกลางถึงใหญ่ ความสูงของต้นประมาณ 25 เมตร แต่บางครั้งอาจสูงได้ถึง 30 – 37 เมตร ลักษณะเนื้อไม้เป็นสีแดงเรื่อ ๆ หรือสีน้ำตาลอมแดง โดยลักษณะของส่วนอื่นๆแบ่งได้ ดังนี้
ลำต้น
ส่วนลำต้นแดงค่อนข้างตรงหรือเป็นปุ่มปม ทรงเรือนยอดไม่ค่อยแน่นอน ใบจะเป็นสีเขียวอมแดง เปลือกลำต้นเรียบและมีสีเทาอมแดง มักเกิดสะเก็ดแตกออกเป็นแผ่นกลมบาง ๆ ภายในเปลือกจะมียางสีแดง ส่วนยอดอ่อนจะมีขนสีเหลืองปกคลุมอยู่
ใบ
ใบมีลักษณะเป็นช่อแบบขนนก 2 ชั้น ช่อใบมีความยาวประมาณ 10 – 22 เซนติเมตร ส่วนก้านใบมีความยาวประมาณ 2 – 7 เซนติเมตร แต่ละช่อใบจะมีใบย่อยประมาณ 4 – 5 คู่ ลักษณะของใบย่อยจะเป็นรูปไข่ แผ่นใบมักมีขนาดไม่สม่ำเสมอกัน
ดอก
ดอกมีสีเหลืองขนาดค่อนข้างเล็ก มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ขึ้นใรลักษณะเป็นช่อ แต่ละช่อดอกมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.4 เซนติเมตร ส่วนกลีบรองกลีบดอกจะเชื่อมติดกันเป็นรูประฆัง ส่วนปลายจะแยกออกเป็น 5 กลีบ มีขนสีเหลืองขึ้นปกคลุม โดยดอกจะออกพร้อมกับใบอ่อนในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม
ผล
ผลมีลักษณะเป็นฝักแบนแข็ง ฝักมีความยาวประมาณ 7 – 10 เซนติเมตร ผิวฝักจะเรียบและมีสีน้ำตาลอมเทา เมื่อฝักแก่จะแตกออกเป็น 2 ซีก ภายในจะมีเมล็ดประมาณ 6 – 10 เมล็ด ฝักจะแก่พร้อม ๆ กันในช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม
ความเชื่อเกี่ยวกับต้นแดง
ต้นแดงเป็นพันธุ์ไม้มงคลพระราชทานประจำจังหวัดตากและมีความเชื่อว่ายิ่งต้นไม้มีอายุมากก็ยิ่งมีเทพารักษา มีเรียกตามท้องถิ่นต่าง ๆ ว่า แดง จะลาน จาลาน ตะกร้อมสะกรอม เพ้ย ปราน ไปร กร้อม ผ้าน คว้าย ไควเพร่ เพ้ย ส่วนชื่อภาษาอังกฤษคือ Iron wood, Irul, Jamba, Pyinkado
คุณสมบัติของต้นแดง
- เมล็ดของไม้แดงสามารถนำมารับประทานได้
- ไม้แดงมีสรรพคุณทางยา อย่างเปลือกมีรสฝาดจะช่วยสมานธาตุ และแก้อาการท้องร่วง ส่วนดอกช่วยบำรุงหัวใจ และใช้เป็นยาแก้ไข้ ส่วนแก่นช่วยบำรุงโลหิต แก้อาการซางโลหิต แก้โรคกษัย ช่วยดับพิษ แก้ไข้กาฬ ท้องเสีย และบรรเทาอาการปวดอักเสบของฝีชนิดต่าง ๆ
- เนื้อไม้มีความแข็งแรง ทนทานต่อแรงกระแทก เพรียงและปลวกไม่สามารถทำลายได้ง่าย และเป็นไม้ที่มีความทนไฟ จึงนำมาใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ทั้งงานก่อสร้างอาคารบ้านเรือน ทำยานพาหนะ ทำสะพาน ทำหมอนรางรถไฟ ทำเครื่องมือชนิดต่าง ๆ หรือนำมาใช้ในงานแกะสลักเพื่อความสวยงามก็ได้
- ปรับสภาพดิน การปลูกต้นแดงจะเพิ่มความชุ่มชื้น และรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดินได้ดี ช่วยปรับปรุงสภาพแวดล้อม ชะลอการพังทลายของหน้าดิน โดยบริเวณที่เป็นดินร่วน หรือดินทราย เนื่องจากไม้แดงเป็นต้นไม้ที่มีระบบรากฝังลึกและแผ่กว้าง จึงสามารถปลูกเพื่อปรับปรุงสภาพป่าที่เสื่อมโทรม หรือปลูกเพื่อปรับสภาพพื้นดินก่อนทำการเพาะปลูกได้
- ทำเป็นถ่านและไม้ฟืนได้ดี เพราะไม้แดงมีกิ่งก้านที่มากพอสมควร จึงสามารถนำมาแปรรูปเป็นถ่านเชื้อเพลิงได้ดี และยังเก็บความร้อนได้สูง
- ปลูกเพื่อจัดสวนและตกแต่งตามอาคารสถานที่ต่าง ๆ โดยเพื่อให้ร่มเงาในสวนสาธารณะ หรือที่โล่งแจ้งได้ดี
การเพาะเมล็ดต้นแดง
การขยายพันธุ์ไม้แดงนิยมใช้เมล็ด เพราะสามารถผลิตกล้าได้เป็นจำนวนมาก และสะดวก เมล็ดที่นำมาเพาะควรเป็นเมล็ดที่มีความสมบูรณ์ และใช้วิธีหว่านเพื่อเพาะกล้า การปลูกไม้แดงควรทำในช่วงต้นฤดูฝน เพื่อให้มีความชื้นในดินเพียงพอให้รากของต้นไม้แข็งแรงและชอนไชได้ดี อายุ 2 – 3 เดือนจึงเริ่มย้ายเป็นต้นกล้า
ก่อนทำการปลูก ควรย้ายกล้าไปในพื้นที่รับแสงแดดได้ดี นานประมาณ 1 เดือน เพื่อให้กล้ามีความแข็งแรงและทนทานต่อสภาพสิ่งแวดล้อมได้ดี ในช่วง 3 ปีแรกควรดูแลอย่างเอาใจใส่ เพื่อให้ต้นไม้สามารถเจริญเติบโตได้ดี ด้วยการถอนวัชพืช และใส่ปุ๋ยเพื่อเร่งการเจริญเติบโตของต้นไม้
ราคาของไม้แดง
- ราคากล้าไม้ อยู่ระหว่าง 15 – 50 บาทขึ้นกับขนาดและความสมบูรณ์ของต้นกล้า
- ราคาเนื้อไม้ ตารางเมตรละ 2,000 – 5,000 บาท ตามลักษณะของการแปรรูป
สรุป
กล่าวได้ว่าไม้แดงคือไม้ที่มีคุณประโยชน์ที่หลากหลาย และมีความสวยงามอันเป็นเอกลักษณ์ แต่กลับมีราคาย่อมเยาว์กว่าไม้เนื้อแข็งชนิดอื่น ๆ จึงทำให้ได้รับความนิยมในการใช้งานเป็นอย่างมาก
อ่านบทความไม้ชนิดอื่นๆ