ดอกคาร์เนชั่น หรือ Carnation ที่เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จัก รวมถึงแนะนำเทคนิคและวิธีปลูกดอกคาร์เนชั่นให้กับคนที่อยากเพิ่มความสวยงาม สดใส และต้องการสร้างอาชีพจากการขายดอกไม้ชนิดนี้กัน เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งดอกไม้ที่ได้รับความนิยม และมีการซื้อขายกันแทบจะทุกพื้นที่ในประเทศไทยและต่างประเทศ เพราะคาร์เนชั่นเป็นดอกไม้ที่มีสีสันสดใส และยังถือว่าเป็นดอกไม้ความหมายดีมากๆ ด้วยนั่นเอง
สาระน่ารู้เกี่ยวกับความหมายของดอกคาร์เนชั่น
เราได้เกริ่นกันไปแล้วเหตุผลที่ทำให้ ดอกคาร์เนชั่น ได้รับความนิยม นอกจากความสวยงามของมันซึ่งเด่นชัดตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น ก็คือความหมายของดอกคาร์เนชั่นที่มีความเป็นสิริมงคล โดยจะสามารถตีความออกไปได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับความเชื่อหรือเรื่องราวที่เล่าสืบต่อกันมา โดยความหมายทั่วๆ ไปที่คนส่วนใหญ่รับรู้ตามสีของดอกไม้ชนิดนี้ก็จะแบ่งออกได้หลายความหมาย เช่น
- ดอกสีแดง หมายถึง ความรัก ความหลงใหล ความรักอันลึกซึ้ง
- ดอกสีขาว หมายถึง ความเชื่อ ความบริสุทธิ์ ความจริงใจ ความอ่อนโยน
- ดอกสีชมพู หมายถึง ความรักในวัยแรกแย้ม ความรักที่จริงใจ ความเบิกบาน
- ดอกสีน้ำเงิน หมายถึง ความสงบ ความสุขุม ความจงรักภักดี
- ดอกสีส้ม หมายถึง ความสดใส ความมีพลัง มีแรงบันดาลใจ ความคิดสร้างสรรค์
ลักษณะของดอกคาร์เนชั่น
ด้วยธรรมชาติของดอกคาร์เนชั่นที่มีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์ Leopardi, Casper, Ashley, Splendid และอีกมากมาย ทำให้มันจัดเป็นดอกไม้สวยงามที่มีความหลากหลายที่สุดชนิดหนึ่ง โดยสามารถพบเจอลักษณะของดอกคาร์เนชั่นที่แตกต่างกันออกไปได้ตามสายพันธุ์ ซึ่งรวมๆ แล้ว ดอกไม้ชนิดนี้ก็จะมีลักษณะที่โดดเด่นคือตัวกลีบดอกที่บาง พลิ้ว ไม่มีก้านใบ เรียงตัวซ้อนกันเป็นชั้นๆ สวยงามเป็นอย่างมาก
ดอกคาร์เนชั่นมีข้อดีอะไรบ้าง
บอกได้เลยว่าดอกคาร์เนชั่นที่ดูสวยงาม บอบบาง และเหมือนว่าจะมีดีแค่ใช้เพื่อประดับตกแต่งแจกันหรือใช้มอบเป็นของขวัญให้กันได้เหล่านี้ มีคุณค่าและสรรพคุณทางยาซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ทำให้ในปัจจุบันมีการนำเอาดอกไม้ชนิดนี้ไปแปรรูปด้วยวิธีการต่างๆ จนกลายเป็นสินค้าเศรษฐกิจสำคัญ ไม่แพ้การขายต้นหรือดอกเลยนั่นเอง ซึ่งข้อดีของคาร์เนชั่นก็มีอยู่มากมาย เช่น
- นำไปทำเป็นชา ช่วยในเรื่องของการไหลเวียนของเลือด
- มีสรรพคุณช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเส้นเลือดหัวใจอุดตัน
- มีสารต้านอนุมูลอิสระเยอะ
- ช่วยบรรเทาอาการอ่อนเพลีย ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย
- รักษาสมดุลของฮอร์โมนในผู้หญิง
- ลดการระคายเคืองผิวหนัง
- ช่วยเพิ่มความอ่อนเยาว์และลดริ้วรอยบนใบหน้า
แนะนำวิธีปลูกดอกคาร์เนชั่นให้เติบโตได้ดี
เรียกได้ว่าเป็นความโชคดีของคนที่อยากจะลองปลูกดอกไม้สวยงามชนิดนี้กันพอสมควร เนื่องจากดอกคาร์เนชั่นเป็นพืชที่ทนต่อความแล้งได้ดี เพราะฉะนั้นอากาศอย่างประเทศไทยบ้านเราก็สามารถปลูกดอกไม้ชนิดนี้กันได้ แถมยังขายได้ราคาดีอีกด้วย โดยวิธีปลูกดอกไม้อย่างคาร์เนชั่นให้เจริญเติบโตได้ดี และลดความเสี่ยงที่จะทำให้ต้นตายก่อนจะได้เก็บเกี่ยวหรือเห็นความสวยงามของดอกคาร์เนชั่นก็จะมีขั้นตอนดังนี้
- เลือกวิธีปลูกดอกไม้ โดยการเพาะเมล็ดหรือการใช้กิ่งชำ
- สามารถใช้กระถางหรือปลูกในแปลงดินก็ได้ โดยแปลงดินควรจะเว้นระยะห่างระหว่างต้นเอาไว้มากกว่า 5 นิ้วขึ้นไป หรือตามความเหมาะสม
- เลือกปลูกดอกคาร์เนชั่นในดินที่มีการระบายน้ำได้ดี ไม่ควรใช้ดินที่แห้ง แข็ง และเหนียว
- กลบบริเวณโคนต้นกล้าที่ลงดินให้มิด และรดน้ำให้ดินมีความชุ่ม
วิธีการดูแลดอกคาร์เนชั่น
- วิธีรดน้ำ
เนื่องจากดอกคาร์เนชั่นเป็นพืชที่ทนแล้งได้ดี แต่ก็ไม่ชอบหากมีน้ำท่วมขังในบริเวณที่ปลูกพวกมันเอาไว้ เพราะฉะนั้นวิธีรดน้ำต้นไม้ที่จะออกดอกสวยงามมาให้เราทุกคนได้ชื่นชมกันในอนาคตเหล่านี้ จะต้องคอยสังเกตไม่ให้พื้นดินโดยรอบแฉะมากจนเกินไป โดยสามารถรดน้ำได้ในทุกๆ 2-4 สัปดาห์ขึ้นอยู่กับสภาพของดินและสภาพอากาศในช่วงเวลานั้น
- วิธีใส่ปุ๋ย
ดอกคาร์เนชั่นมีวิธีใส่ปุ๋ยที่ไม่ได้แตกต่างจากไม้ดอกทั่วไปเท่าไหร่นัก ดังนั้นใครที่อยากจะบำรุงดอกให้มีสีสันสวยงาม และกลีบดอกทรงสวย สมบูรณ์ ก็สามารถเลือกใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยอินทรีย์ที่ทำด้วยตัวเองหรือตามร้านค้าทั่วไป รวมไปถึงปุ๋ยสูตรสำเร็จที่ประกอบไปด้วยฟอสฟอรัสและโพแทสเซียม เพื่อเน้นการบำรุงดอกโดยเฉพาะได้ด้วย
- แสงแดด
ในส่วนปัจจัยเรื่องแสงแดดที่มีประสิทธิภาพต่อการเจริญเติบโตของดอกคาร์เนชั่น ก็ต้องเป็นพื้นที่ซึ่งต้นและดอกจะมีโอกาสโดนแสงแดดจัดอยู่ตลอด ในขณะเดียวกันก็จะต้องมีอุณหภูมิที่ไม่สูงมากจนเกินไป ดังนั้นสำหรับพื้นที่ซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับการปลูกดอกไม้ชนิดนี้ ก็แนะนำให้เริ่มจากการปลูกคาร์เนชั่นลงกระถางในปริมาณน้อยๆ หรือทำการสร้างโรงเรือนเอาไว้เพื่อป้องกันอุณหภูมิที่ร้อนจัดซึ่งเสี่ยงทำให้ต้นแห้งตายได้นั่นเอง
ปัญหาที่พบบ่อยในการปลูกดอกคาร์เนชั่น
สำหรับใครที่กำลังศึกษาวิธีดูแลดอกไม้ก็ต้องไม่ลืมที่จะศึกษาเรื่องของปัญหารวมถึงโรคที่พบได้บ่อยในดอกไม้ที่ต้องการปลูก เนื่องจากมันจะทำให้ทุกคนวางแผนรับมือ รวมถึงประเมินความเสี่ยงก่อนที่ปัญหาเหล่านั้นจะส่งความเสียหายต่อดอกคาร์เนชั่นได้เป็นอย่างดี ซึ่งปัญหาที่พบได้บ่อยก็มีอยู่มากมาย เช่น
- ดอกเหี่ยว เฉา ไม่สมบูรณ์ เนื่องจากอุณหภูมิที่ร้อนจัด สามารถแก้ไขได้โดยการสร้างโรงเรือนหรือควบคุมอุณหภูมิด้วยอุปกรณ์ต่างๆ
- เกิดจุดสีน้ำตาลขึ้นที่บริเวณใบ เกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น ดินขาดสารอาหาร หรือเกิดจากเชื้อรา
- หนอนผีเสื้อเจาะ ทำให้ใบ ดอก หรือลำต้นของดอกคาร์เนชั่นได้รับความเสียหาย ซึ่งหากทุกคนประเมินแล้วว่ามันเป็นความเสียหายที่เกินรับไหว ก็ให้ทำการสร้างโรงเรือนหรือใช้สารละลายต่างๆ ฉีดพ่นเพื่อไล่ศัตรูพืชชนิดนี้
บทส่งท้าย
ดอกไม้สวยงามที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ ความเชื่อ ทั้งยังเป็นดอกไม้ที่ใช้มอบให้กันเพื่อแสดงถึงความรักและความรู้สึกดีๆ อย่างดอกคาร์เนชั่น ถือได้ว่าเป็นดอกไม้ที่นิยมปลูกกันในหลากหลายพื้นที่ โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อการออกดอกและคุณภาพของมัน ก็คือความชื้น แสงแดด รวมถึงสภาพอากาศที่ต้องมีความเย็นสบาย ไม่ร้อนจัดจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดโรคหรือทำให้คาร์เนชั่นเหี่ยวเฉาได้ง่าย
ขอขอบคุณคลิปจาก Bunsom Phimphan
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ preserved-flower.biz
