ดอกเบญจมาศ ที่พบเห็นกันได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ที่ใช้ตามงานพิธีต่างๆ หรือตามร้านขายดอกไม้ เรียกได้ว่าเป็นดอกไม้เศรษฐกิจที่มีการซื้อขาย และนิยมปลูกกันในบ้านมากที่สุดชนิดหนึ่งของโลก เนื่องจากมันเป็นดอกไม้ที่มีความสวยงาม ดอกใหญ่ มีหลายสายพันธุ์ ทั้งยังมีสีให้เลือกใช้งานได้ตามใจชอบ ซึ่งใครที่อยากจะปลูกดอกไม้ชนิดนี้กันดูบ้าง ในบทความนี้เรามีวิธีปลูกดอกเบญจมาศ พร้อมวิธีการดูแลที่นำไปปรับใช้กันได้ง่ายๆ มาแชร์ให้อ่านกันแล้ว
ความหมายของดอกเบญจมาศ
เดิมทีดอกเบญจมาศเป็นดอกไม้ที่มีต้นกำเนิดอยู่ในพื้นที่แถบประเทศจีนและประเทศญี่ปุ่น เพราะฉะนั้นเราทุกคนจึงสามารถพบเห็นตำนาน เรื่องเล่า หรือประวัติความเป็นมาของดอกไม้สวยงามชนิดนี้ที่ถูกส่งต่อ ทั้งยังส่งผลทางความเชื่อของคนไทยเราเป็นอย่างมาก โดยความหมายของดอกเบญจมาศก็มักจะใช้เพื่อสื่อถึงความสูงส่ง ล้ำค่า รวมถึงการมีอายุยืน และความรักได้ด้วย
ลักษณะของดอกเบญจมาศ
สำหรับลักษณะของดอกเบญจมาศก็จะมีความโดดเด่น และแตกต่างจากดอกไม้สวยงามทั่วไป ทำให้มันกลายมาเป็นหนึ่งในดอกไม้ที่ไม่ว่าใครได้เห็นต่างก็ต้องหลงรัก ทั้งยังกลายมาเป็นดอกไม้ที่ถูกหยิบนำมาใช้มากที่สุดชนิดหนึ่ง โดยลักษณะที่พบเห็นได้บ่อยก็มักจะมีการออกดอกเป็นช่อ รูปแบบของกลีบดอกจะเรียงซ้อนกันเป็นชั้นสวยงาม สามารถพบได้ทั้งแบบดอกใหญ่ ดอกเล็ก ดอกแน่น ดอกแบบฟุ้งกระจาย หรือดอกที่เรียงเป็นเส้น สีสันหลากหลายขึ้นอยู่กับสายพันธุ์
แนะนำวิธีปลูกดอกเบญจมาศ
เนื่องจากดอกเบญจมาศเป็นดอกไม้ที่ได้รับความนิยมสูงมาก เพราะฉะนั้นจึงมีบรรดาพ่อค้าแม่ขายเลือกปลูกดอกไม้ชนิดนี้กันมากตามไปด้วย ไม่เว้นแม้แต่คนที่ชื่นชอบดอกไม้สวยงาม หรือคนที่ต้องการจัดสวนให้มีสีสันสดใส มีชีวิตชีวา ก็มักจะเลือกปลูกดอกไม้ชนิดนี้กัน โดยเคล็ดลับการปลูกเบญจมาศให้อยู่รอดปลอดภัย ไม่เฉาตายไปก่อนก็จะมีขั้นตอนดังนี้
- เพิ่มเปอร์เซ็นต์การเจริญเติบโต ด้วยการเพาะต้นอ่อนในภาชนะที่จัดเตรียมเอาไว้
- เมื่อผ่านไปประมาณ 3 สัปดาห์ก็ให้ย้ายต้นอ่อนจากภาชนะลงดินหรือกระถางที่ต้องการปลูกต้นเบญจมาศ
- เลือกพื้นที่ในการปลูก โดยสามารถผสมขุยมะพร้าวหรือมูลสัตว์เพื่อเพิ่มสารอาหารและรักษาความชุ่มชื้นของดินได้
- นำต้นอ่อนลงดิน โดยจะต้องกดดินให้แน่น
- ดูแลและหมั่นสังเกตต้นอ่อนอยู่เป็นประจำ จนกว่าจะผ่านช่วง 2-3 เดือนไปแล้ว
วิธีการดูแลดอกเบญจมาศให้สมบูรณ์สวยงาม
- วิธีรดน้ำ
การดูแลดอกเบญจมาศที่สำคัญมากที่สุดในลำดับแรก ก็คือการให้ความสำคัญกับวิธีรดน้ำต้นไม้ที่กำลังเติบโตเป็นอย่างดี โดยเฉพาะในช่วงแรกที่ทำการปลูกต้นอ่อนลงดินใหม่ๆ เนื่องจากเป็นช่วงที่ต้นเบญจมาศของเรายังมีความอ่อนแอ และต้องการน้ำในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อการเจริญเติบโต โดยให้ทำการรดน้ำทุกวันทั้งเวลาเช้าและเวลาเย็น ก่อนจะค่อยๆ ลดปริมาณลงเป็นทุกๆ 3 วัน (คอยสังเกตสภาพอากาศหรือความแห้งของหน้าดิน)
- วิธีใส่ปุ๋ย
สำหรับอีกหนึ่งวิธีดูแลดอกไม้ที่เหล่ามือใหม่หรือมืออาชีพในวงการดอกไม้สวยงามไม่ควรมองข้ามก็คือการให้ความสำคัญกับวิธีใส่ปุ๋ยอย่างเหมาะสมด้วย ซึ่งดอกเบญจมาศเป็นพืชที่ต้องการบำรุงอยู่พอสมควร เพื่อความสมบูรณ์ของลำต้นและตัวดอก โดยในช่วงก่อนที่จะมีการออกดอกให้ทำการใส่ปุ๋ยที่มีส่วนประกอบของไนโตรเจนเพื่อบำรุงลำต้น ในขณะที่เมื่อดอกออกมาให้เห็นแล้วก็ให้บำรุงด้วยปุ๋ยโพแทสเซียมคลอไรด์ เพื่อความสมบูรณ์แข็งแรงของดอกนั่นเอง
- แสงแดด
เป็นสิ่งที่ต้องจดจำให้ขึ้นใจและอย่าได้ไปสับสนกับการปลูกดอกไม้ชนิดอื่นๆ เพราะดอกเบญจมาศชอบแสงแดดเป็นอย่างมาก ดังนั้นการเลือกพื้นที่ในการปลูกดอกไม้ชนิดนี้จึงจะต้องมั่นใจก่อนว่ามันเป็นพื้นที่ซึ่งมีแสงแดดส่องถึง โดยเบญจมาศจะออกดอกได้ดี และมีสีที่สดมากขึ้นหากได้รับแสงแดดมากกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน รวมถึงได้รับแสงแดดจัด แต่ก็ควรจะหลีกเลี่ยงแดดตอนเที่ยงที่ร้อนมากเกินไป
ปลูกดอกเบญจมาศสามารถพบปัญหาอะไรได้บ้าง
คนที่เคยมีประสบการณ์ปลูกดอกเบญจมาศ รวมถึงคนที่เคยทำธุรกิจเกี่ยวกับดอกไม้ชนิดนี้มาก่อน ต่างก็เคยพบเจอปัญหากวนใจที่ส่งผลต่อคุณภาพของดอกไม้ชนิดนี้กันเป็นอย่างมาก ดังนั้นก็จะต้องศึกษาวิธีดูแลดอกไม้รวมทั้งปัญหาที่อาจพบในอนาคตซึ่ งปัญหาที่พบได้บ่อยก็จะมีหลากหลาย เช่น การรดน้ำที่มากเกินไปจะเริ่มทำให้ต้นเหี่ยว เหลือง รวมทั้งเกิดโรคเน่าหรือโรคราในดอกไม้ตามมาได้ นอกจากนั้นก็จะต้องระวังแมลงศัตรูพืชอย่างด้วงใบที่เป็นตัวอันตรายกับเบญจมาศด้วยนั่นเอง
การใช้ประโยชน์จากดอกเบญจมาศ
นอกจากคนส่วนใหญ่จะนิยมปลูกดอกเบญจมาศเพื่อความสวยงาม ทำเป็นธุรกิจ หรือใช้เพื่อประดับตกแต่งบ้านได้แล้ว มันก็ยังเป็นดอกไม้ที่มีคุณค่าทางอาหารสูง และถูกนำมาใช้ทำเป็นอาหาร เครื่องดื่ม และขนมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นขนมดอกเบญจมาศที่คนจีนและคนญี่ปุ่นนิยมทานกันมาหลายร้อยปีแล้ว นอกจากนั้นก็ยังสามารถนำมาอบแห้งและทำเป็นชาหอมกรุ่น ตลอดจนนำไปชุบแป้งทอดก็อร่อยไปอีกแบบเช่นเดียวกัน
บทส่งท้าย
ดอกเบญจมาศ เป็นดอกไม้ที่นอกจากจะมีความสวยงามจนเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลกแล้ว มันก็ยังเป็นดอกไม้อันล้ำค่าที่มีประวัติความเป็นมา และมีความผูกพันกับคนเรามานานหลายร้อยปี โดยการปลูกดอกไม้ชนิดนี้ในปัจจุบันสามารถทำได้ง่าย ทั้งยังเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยต้องให้ความสำคัญกับการเพาะพันธุ์ต้นอ่อน รดน้ำให้เพียงพอ รวมถึงใส่ใจในเรื่องของปริมาณแสงแดดเพื่อความสวยสดใสของดอกด้วย
ขอขอบคุณคลิปจาก Thai PBS
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ preserved-flower.biz
