ต้นยางนา นั้นเป็น ต้นไม้ใหญ่ ที่สามารถพบได้ทุกที่ในประเทศไทย ไม้ยืนต้น ขนาดใหญ่ สายพันธุ์ดังกล่าวนั้นสามารถยืนยันชื่อได้จากการที่มีชื่อของพวกเขาอยู่ในชื่อของอำเภอ ตำบล หรือหมู่บ้านทั่วทุกภูมิภาคในประเทศเลยทีเดียว
พวกเขาเป็น ต้นไม้ทนแดด ที่อยู่คู่กับเมืองไทยมาตั้งแต่โบราณแล้วและมีการนำเอาต้นไม้สายพันธุ์ดังกล่าวมาใช้ประโยชน์มากมายไม่ว่าจะเป็นในฐานะของ พืชสมุนไพร หรือแม้แต่การเป็นไม้เศรษฐกิจเองก็ตาม นอกจากนี้พวกเขายังมีอีกชื่อหนึ่งอีกด้วยคือ ต้นยางนา แดง พวกเขานั้นจะมีลักษณะเป็นอย่างไรและมีความสำคัญอย่างไรไปดูกัน
ความรู้จักกับ ต้นยางนา ต้นไม้ที่อยู่คู่กับประเทศไทยมาอย่างยาวนาน
ต้นยางนา นั้นเป็นไม้ที่อยู่คู่กับประเทศไทยของเรามาอย่างยาวนาน ต้นยางนาประโยชน์ ของพวกเขาก็คือน้ำมันยางที่คนไทยในยุคโบราณนำเอาไปขายจนร่ำรวยเป็นล่ำเป็นสันกันเลยทีเดียว มีการ ปลูกต้นยางนา เพื่อนำเอามาใช้ในการสร้างบ้านเป็นรองเพียงแค่ไม้สักเท่านั้น
น่าเสียดายที่ปัจจุบัน ต้นไม้ประจำจังหวัด สายพันธุ์นี้มีจำนวนลดลงไปเป็นอย่างมากเนื่องจากปัญหาการบุกรุกทำลายป่าโดยเฉพาะการใช้ที่ดินสำหรับการทำการเกษตรบริเวณพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่ของพวกเขา ดังนั้นจึงมีการอนุรักษ์และส่งเสริมการปลูกโดยใช้ กล้าไม้ยางนา เป็นจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียวในตอนนี้
ลักษณะของต้นยางนา
สำหรับ ลักษณะต้นยางนา นั้นพวกเขาจะเป็นต้นไม้ที่มีความสูงประมาณ 50 เมตรลำต้นยืนตรง มีเปลือกหนาสีเทาหรือสีเทาปนสีขาว โคนต้นจะสูงขึ้นมาจากพื้นดินเล็กน้อย ดังนั้นหากถามว่า ต้นยางนาปลูกในบ้านได้ไหม คำตอบก็คือได้เพียงแต่ว่าเราต้องมีพื้นที่ให้กับพวกเขาในการเจริญเติบโตซักเล็กน้อย
สำหรับใบนั้นจะเป็นใบเดี่ยวทรงรูปไข่หรือรูปรีปลายใบมนหรือปลายแหลมก็มีเช่นเดียวกัน ใบอ่อนจะมีขนสีเทาอยู่บ้างประปราย มีการออกดอกเป็นช่อสั้นสีขาวอมชมพูเรียงติดกันเป็นรูปถ้วย สำหรับผลนั้นจะเป็นทั้งทรงกลมและรูปไข่โดยเป็นผลแห้ง ออกผลในช่วงเดือนพฤษภาคมไปจนถึงเดือนมิถุนายนเลยทีเดียว
ราคาของต้นยางนา
ต้นยางนาราคา ไม่แพงส่วนใหญ่แล้วจะใช้ วิธีปลูกยางนา การเพาะเมล็ดแต่ก็มีการขายต้นกล้าเช่นเดียวกันโดยจะอยู่ที่ประมาณ 60 บาทต่อต้น โดยทั่วไปที่พบเห็น ต้นยางนามีกี่ชนิด หรือ ต้นยางนามีกี่สายพันธุ์ นั้นพบว่าจะมีเพียงแค่ชนิดเดียวนั่นก็คือยางนาหรือ ต้นยางนาแดง แต่ก็มีต้นยางชนิดอื่นเช่นเดียวกันอย่างเช่นยางพาราเป็นต้น
สรรพคุณ และประโยชน์จากพืชสมุนไพร ต้นยางนา
นอกจากนี้ ต้นยางนาความเชื่อ ยังเป็นต้นไม้มงคลสำหรับชาวจังหวัดอุบลราชธานีอีกด้วยเนื่องจากเส้นต้นไม้พระราชทาน ต้นยางนาปลูกกี่ปี โดยปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณ 7 ปีจึงจะออกดอกออกผลและสามารถใช้ประโยชน์ได้ ต้นไม้สายพันธุ์นี้มีบทบาทในฐานะของไม้เศรษฐกิจเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีการนำเอาต้นไม้ดังกล่าวมาใช้ประโยชน์ในการทดแทนน้ำมันดีเซลสำหรับการทำการเกษตรพอเพียง
สรรพคุณทางยา
สำหรับ สรรพคุณของยางนา นั้นมีมากมายเริ่มต้นตั้งแต่เปลือกที่สามารถนำเอาไปต้มน้ำเป็นยาบำรุงร่างกายสำหรับการบำรุงโลหิต แก้อาการตับอักเสบ ฟอกเลือด หรือใช้นวดทาถูเป็นยาแก้ปวดได้ ใบต้นยางนา และเมล็ดนั้นหากนำไปต้มใส่เกลือใช้โอมสามารถแก้ปวดฟันได้เป็นอย่างดี หรือจะนำเอาไปผสมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นยาขับปัสสาวะก็ได้เช่นเดียวกัน
ในส่วนของน้ำมันนั้นหากผสมกับเมล็ดกุยช่ายจากนั้นให้บดละเอียดสามารถใช้แทนยาอุดฟันได้ ใบและยางนั้นเราสามารถรับประทานได้เป็นยาขับเลือดหรือทำให้เป็นหมัน ส่วนน้ำมันยางดิบนั้นจะเป็นยาถ่ายและช่วยให้ริดสีดวงทวารหนักฝ่อลง มีสรรพคุณเป็นยาสมานแผล ป้องกันแผลเน่าเปื่อย โรคเรื้อน โรคหนองใน ตัวเนื้อไม้นั้นสามารถใส่กบได้อย่างง่ายดายจึงนิยมนำเอามาก่อสร้างหรือแม้แต่การทำเฟอร์นิเจอร์
นอกจากนี้ยังมีประโยชน์อื่นอีกด้วยอย่างเช่นกันช่วยให้เชื้อเห็ดราไมคอร์ไรซาเติบโต เห็ดที่เกิดขึ้นนั้นสามารถนำเอาไปประกอบอาหารได้ สวนน้ำมันหักผสมเข้ากับชันก็จะใช้ทายาเรือ เครื่องจักสาน หรือทาไม้ได้
น้ำมันต้นยางนา สามารถนำไปผลิตน้ำมันไบโอดีเซลได้
เนื่องจากน้ำมันจากต้นไม้ดังกล่าวสามารถนำเอาไปผลิตน้ำมันไบโอดีเซลได้ดี โดยเฉพาะการใช้งานกับเครื่องจักรกลทำการเกษตรรอบต่ำอย่างเช่นรถไถนาเป็นต้น โดยเราจะสามารถเจาะน้ำมันได้เมื่อพวกเขามีอายุตั้งแต่ประมาณ 15 ปีขึ้นไปด้วยการนำเอาสว่านไฟฟ้าเจาะเฉียงขึ้นไปประมาณ 45 องศาเหนือระดับพื้นดินประมาณ 30 เซนติเมตร ให้เราทำการเจาะลึกประมาณ 20 เซนติเมตรหลังจากนั้นก็ให้นำเอาภาชนะไปรองรับน้ำมันได้เลย
บทสรุป ต้นยางนา ต้นไม้ที่เต็มไปด้วยประโยชน์ที่ต้องอนุรักษ์เอาไว้
ต้นยางนา นั้นเป็นต้นไม้ที่เต็มไปด้วยประโยชน์มากมายไม่ว่าจะในฐานะของเครื่องฟอกอากาศ เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับโลก ช่วยฟอกอากาศได้เป็นอย่างดี ตัวไม้ก็สามารถนำเอามาใช้ทำเฟอร์นิเจอร์หรือสร้างบ้านได้ ในขณะที่ทุกส่วนของลำต้นก็ยังใช้เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยาได้อีกต่างหาก
มีน้ำมันที่เราสามารถใช้งานทดแทนน้ำมันดีเซลที่ตอนนี้ขึ้นราคาแบบไม่หยุดหย่อนได้อีกด้วย แต่น่าเสียดายที่การบุกรุกป่าโดยเฉพาะการใช้ประโยชน์ในการทำการเกษตรทำให้ต้นไม้สายพันธุ์นี้มีจำนวนลดน้อยถอยลงไปเป็นอย่างมาก ดังนั้นเราจึงควรอนุรักษ์ต้นไม้สายพันธุ์นี้เอาไว้เพื่อใช้ประโยชน์ต่อไปในอนาคต preserved-flower.biz
ความเพิ่มเติม
