แมมขนแมว แคคตัสขนปุยคล้ายขนแมว เลี้ยงง่าย ที่คุณต้องหลงใหล

แมมขนแมว
สารบัญบทความ
แมมขนแมว

สำหรับใครที่กำลังมองหาไม้ประดับน่ารัก ๆ ไว้ปลูกบริเวณบ้าน หรือมอบเป็นของขวัญให้กับคนพิเศษ เราขอแนะนำเจ้าแคคตัสขนปุยสุดคิ้วท์ ที่มีชื่อเรียกว่า “แมมขนแมว” เป็นต้นแคคตัสที่มีเส้นขนสีขาวฟูฟ่องคล้ายขนแมว

คนไทยนิยมนำมาปลูกเป็นไม้ฟอกอากาศ แถมยังมีความเชื่อว่าเป็นไม้นำโชคที่เหมาะสำหรับเจ้าของกิจการอีกด้วย นอกจากลักษณะภายนอกที่ดูน่ารักแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งพันธุ์ไม้ที่ปลูกไม่ยาก แถมยังเลี้ยงง่ายในสภาพอากาศของเมืองไทย ถือเป็นต้นไม้ที่ได้รับความนิยมในวงการนักผสมเกสรแคคตัสอย่างมาก แต่สำหรับคนทั่วไปอาจจะยังไม่รู้จักเจ้าต้นแคคตัสสุดคิ้วท์นี้สักเท่าไหร่ ดังนั้นวันนี้เราจึงจะขอพาทุกคนมาทำความรู้จักกับกระบองเพชรขนแมวให้มากขึ้น

ข้อมูลทั่วไปของต้นแคคตัสขนแมว

แคคตัสขนแมว

แมมขนแมว หรือชื่อวิทยาศาสตร์เรียกว่า MAMMILLARIA BOCASANA POSELG เป็นต้นกระบองเพชรยอดฮิตของตระกูลแมมมิลาเรีย วงศ์ CACTACEAE เป็นสายพันธุ์ที่มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศเม็กซิโก (SAN LUIS POTOSI, ZACATECAS) ตามแนวหิน/หินภูเขาไฟที่ไม่ค่อยมี ORGANIC MATTER (อินทรีย์วัตถุ) มากนัก

ซึ่งตามหลักพฤกษศาสตร์โลกกระบองเพชรขนแมวนี้มีชื่อเรียกว่า POWDER PUFF CACTUS หรือ POWDER PUFF PINCUSHION เป็นต้นกระบองเพชรที่มีการแตกหน่อเป็นกอรูปทรงกลมขนาดเล็กปกคลุมด้วยขนสีขาวเนียนคล้ายขนแมวหรือลักษณะคล้ายก้อนสำลี เป็นพืชที่ปลูกง่ายแต่มีรูปแบบสายพันธุ์ย่อยที่แตกต่างกันมากมาย และสามารถออกดอกอย่างอิสระตลอดทั้งปี โดยทั่วไปแคคตัสขนแมว มักจะเติบโตบนหุบเขา ในหินภูเขาไฟ และในสภาพแวดล้อมกึ่งทะเลทราย

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้เส้นขนสีขาวฟูฟ่องจะแลดูน่าสัมผัสแค่ไหน แต่ก็ไม่อาจแตะแบบไม่ระวังได้ เพราะแคคตัสขนแมว เป็นไม้อวบหนามตรงกลางพุ่มขนนุ่มฟูมีหนามตะขอแข็งซ่อนตัวอยู่ หากโดยตำเข้าต้องบ่งออก แต่บางคนอาจเกิดอาการอักเสบไปหลายวันเลยทีเดียว

ลักษณะเด่นของแมมขนแมว

แมมขนแมว

แมมขนแมวมีลักษณะเด่นอยู่ที่หนาม ซึ่งแตกต่างจากแคคตัสในตระกูลแมมมิลาเรียชนิดอื่น ๆ ดังนั้น ถ้าสมมติเราเดินไม่ระวังไปชนมันเข้าก็อาจจะโดนปลายหนามตะขอนั้นเกี่ยวติดกับเสื้อผ้าได้ นอกจากหนามแล้วต้นแคคตัสขนแมวมีลักษณะเด่นที่ทำให้หลายคนตกหลุมรักได้ง่าย ๆ ดังนี้

หนาม

หนาม มีลักษณะเป็นเส้นแข็งยาวยื่นออกมาจากกลุ่มเส้นขนสีขาว ตรงปลายของหนามจะโค้งเข้าแบบตะขอ ส่วนเส้นขนจะมีความโปร่งและฟู ไม่หนามาก ทำให้มองเห็นผิวลำต้นที่เป็นสีเขียวได้เล็กน้อย

ลำต้น

สำหรับลำต้นมีลักษณะค่อนข้างกะทัดรัด เป็นทรงกลมโค้งมน ผิวนอกมีสีเขียวสดเสมอกันค่อนข้างมีความอ่อนนุ่มลักษณะคล้ายกับผิวหนัง บริเวณลำต้นจะมีตุ่มหนามเป็นเนินต่ำกระจายตัวทั่วลำต้น

แต่บริเวณโค้นต้นจะไม่มีหนามและมีขนาดค่อนข้างใหญ่ บางต้นบริเวณโคนอาจจะมีสีที่ค่อนข้างเข้มเหมือนสีแดง ซึ่งนั่นเป็นลักษณะปกติทั่วไป ไม่ต้องตกใจ

ใบ

ใบของต้นกระบองเพชรขนแมว จะลดรูปเป็นหนามเช่นเดียวกับต้นแคคตัสสายพันธุ์อื่น ๆ ซึ่งแต่ละตุ่มหนามจะประกอบด้วยหนาม 2 รูปแบบ แบบแรกจะมีลักษณะเหมือนเส้นขนสีขาวฟูฟ่อง เป็นเส้นยาวและเบาบาง จึงทำให้เราสามารถมองเห็นลำต้นได้ ส่วนอีกแบบหนามจะมีสีน้ำตาลที่แข็งกว่าเล็กน้อย ปลายสุดงอเป็นรูปตะขอ

ดอก

ดอกมีขนาดเล็กโทนสีหวานสวยงาม อย่างสีชมพูเข้ม ชมพูอ่อน หรือสีขาวนวลแซมชมพู สามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี จึงเป็นหนึ่งในต้นกระบองเพชรที่นักสะสมนิยมปลูกมากที่สุด

ผล

ผลจะมีลักษณะเป็นฝักรูปร่างยาวทรงรีคล้ายเมล็ดพริก เมื่อโตเต็มที่สีผิวด้านนอกจะกลายเป็นสีชมพูบานเย็นไปจนถึงสีแดงสด และมีจุกสีน้ำตาลอยู่ที่ขั้วด้านหนึ่ง

แมมขนแมว ผล
ผลของแมมขนแมว

ที่มาของชื่อแมมขนแมว

ความจริงแล้ว แมมขนแมว เป็นชื่อที่ใช้เรียกเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น เนื่องจาก MAMMILLARIA BOCASANA มีลักษณะเด่น คือ มีขนปกคลุมเหมือนน้องแมวตัวน้อย ๆ น่ารัก ๆ คนไทยจึงนำลักษณะที่โดดเด่นนี้มาตั้งเป็นชื่อเรียก แต่ในวงการพฤกษศาสตร์โลกไม่มีชื่อนี้นะคะ

มีแต่ “POWDER PUFF CACTUS, POWDER PUFF PINCUSHION, SNOW BALL CACTUS, FISHHOOKS” ซึ่ง POWDER PUFF หรือ SNOW BALL มาจากรูปลักษณ์ของแมมที่มีลักษณะเหมือนลูกบอลกลมฟูฟ่องปกคลุมด้วยขนสีขาว ส่วนชื่อ FISHHOOKS มาจากที่คน MEXICO สมัยก่อนนำหนามเกี่ยวของแมมมาใช้เป็นเครื่องมือในการตกปลาในสมัยก่อน

ความเชื่อ

คนไทยมีความเชื่อว่าหากปลูกต้นกระบองเพชรขนแมวในบริเวณที่ผู้ปลูกใช้เวลาในพื้นที่นั้นเป็นประจำ หรือตั้งกระถางไว้ในห้องนอน จะช่วยเสริมเสน่ห์ให้กับผู้เพาะเลี้ยง ทำให้มีแต่คนรักใคร่เอ็นดู อยากเข้าหาผูกมิตรและเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับเจ้าของกิจการที่ต้องทำการติดต่อลูกค้าหรือซัพพลายเออร์ รวมถึงคนที่ทำงานเกี่ยวการสื่อสารกับผู้คนมากหน้าหลายตา แต่ถ้าหากต้องการเสริมเรื่องการเงินและโชคลาภให้วางต้นแคคตัสขนแมวไว้บริเวณที่ทำงานหรือห้องโถงของบ้าน

กระบองเพชรขนแมว

การเลี้ยงแมมขนแมว

แมมขนแมว เป็นพืชทะเลทราย หรือพืชอวบน้ำ (SUCCULENT PLANTS หรือ SUCCULENTS) ที่มีการกักเก็บน้ำไว้บริเวณราก ใบ และลำต้น จึงทำให้พวกมันสามารถมีชีวิตรอดในสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งได้

ซึ่งโดยปกติแคคตัสขนแมวจะชอบอยู่ในพื้นที่อุณหภูมิอบอุ่นประมาณระหว่าง 70 ถึง 80 °F (21 ถึง 27 °C) และต้องการแสงแดดอย่างน้อย 8 ชั่วโมง แล้วเลี้ยงในคอนโดได้หรือไม่?

ต้องบอกเลยว่าได้ ซึ่งคุณสามารถเลี้ยงแคคตัสขนฟูนี้ในกระถางบริเวณสภาพอากาศที่แห้งและเย็นในบ้านหรือคอนโดได้ แมมขนแมววิธีเลี้ยงนั้นไม่ยากเลย เหมือนกับต้นกระบองเพชรทั่วไป เพียงแต่คุณต้องคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้

  • ปริมาณแสงต้องการแสงต่อเนื่องหลายชั่วโมง แต่ไม่เหมาะกับแดดที่แรงและร้อนจัด
  • การให้น้ำควรรดน้ำเฉพาะตอนที่หน้าดินแห้ง แต่บางช่วงก็อาจต้องการน้ำมากกว่าปกติจนต้องรดน้ำได้เกือบทุกวัน
  • ดิน ควรเป็นดินปลูกที่ระบายน้ำได้ดี เช่น ดินร่วนปนทราย ดินกรวด หรือวัสดุปลูกอินทรีย์อย่างพีทมอส
  • การให้ปุ๋ยช่วงแรกของการเพาะต้นใหม่ให้ใช้ปุ๋ยหมักบำรุงดิน จากนั้นให้ใช้ปุ๋ยออสโมโค้ทที่ละลายน้ำได้ช้าโรยรอบโคนต้น ประมาณ 3-4 เดือนต่อครั้ง
  • ศัตรูพืช และโรค ระมัดระวังปัจจัยภายนอกที่อาจส่งผลต่อการเจริญเติบโต เช่น เพลี้ยแป้ง (MEALYBUG), ไรแดง (RED SPIDER MITES), เพลี้ยญี่ปุ่น (COCHINEAL INSECT), โรคราสนิม (RUST DISEASE) เป็นต้น

การขยายพันธุ์แมมขนแมว

แมมขนแมว เป็นพืชที่สามารถขยายพันธุ์ได้ดีโดยการเพาะเมล็ด เนื่องจากเป็นพืชที่แตกหน่อน้อยมาก แต่จะออกดอกและติดผลมากกว่าหลายเท่า ดังนั้นผู้เพาะปลูกจึงนิยมทำการผสมเกสรข้ามต้น จากนั้นก็รอเวลาให้ผลงอกออกมาแต่ถ้าดอกที่ผสมแห้งเหี่ยวไปแสดงว่าไม่ติดผล ให้ทำการผสมเกสรซ้ำอีกรอบ เมื่อผลแก่มากพอสำหรับทำการเพาะปลูก ก็ถึงเวลาเตรียมดินโดยจะใช้ดินร่วนผสมกับขุยมะพร้าว แล้วนำไปใส่ในกระถาง

จากนั้นผสมปุ๋ยหมักบำรุงดินลงไปด้วย แล้วนำผลมาแกะเอาเมล็ดด้านในแล้วแบ่งเพาะลงกระถางที่เตรียมดินไว้ ควรตั้งไว้ในที่ร่มพร้อมรดน้ำอย่างต่อเนื่อง หรือจนกว่าต้นกล้าจะงอกและแข็งแรงดี จึงสามารถนำไปเลี้ยงในบริเวณที่ต้องการตามวิธีการเลี้ยงข้างต้นได้

แคคตัสขนแมว
แมมขนแมว(ซ้าย), แมมขนแกะ(ขวา)

แมมขนแมวต่างจากแมมชนิดอื่น ๆ อย่างไร?

เชื่อว่าหลายคนกำลังสับสนระหว่าง แมมขนแมวกับแมมขนแกะ ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าต้นแคคตัสทั้งสองชนิดนี้มีลักษณะใกล้เคียงกันมาก เรียกได้ว่าเหมือนกันแทบจะทุกกระเบียดนิ้วเลยทีเดียว

เนื่องจากแมมขนแกะเป็นสายพันธุ์ที่พัฒนาต่อยอดมาจากกระบองเพชรขนแมว จึงทำให้มีลักษณะคล้ายกันมาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีจุดที่แตกต่างกันเลย สังเกตง่าย ๆ แคคตัสขนแมว จะมีลักษณะเส้นขนที่บางเบากว่า ส่วนแมมขนแกะ จะมีขนฟูและหนาแน่นจนแทบจะมองไม่เห็นหนามตะขอเลย

แมมขนแมว-ราคาซื้อขายในท้องตลาด

แคคตัสขนฟูสายพันธุ์นี้สามารถหาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด โดยทั่วไปแมมขนแมวราคาจะอยู่ที่ประมาณต้นละ 20 ถึง 100 กว่าบาท แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับขนาดของต้น และสายพันธุ์ด้วย

เนื่องจากแมมขนแมวกับแมมขนแกะ สามารถนำมาผสมพันธุ์กันได้ (อย่าลืมสอบถามผู้ขายว่าแท้ หรือ ลูกผสม) ซึ่งโดยทั่วไปราคาของแมมขนแกะจะสูงกว่า เพราะมีเส้นขนที่หนาและฟูกว่า

แคคตัส

เกร็ดความรู้เพิ่มเติม

โดยทั่วไปต้นแมมขนแมวมักจะนิยมปลูกเพื่อเป็นไม้ประดับตกแต่งโต๊ะทำงานหรือห้องนั่งเล่น เพราะมีคุณสมบัติในการฟอกอากาศ แถมยังช่วยดูดซับแสงสีฟ้าและรังสีชนิดอื่น ๆ ที่เป็นอันตรายต่อสายตาได้อีกด้วยบางคนนำมาปลูกไว้ในห้องนอน เพื่อช่วยปรับอากาศให้สะอาดสดชื่น เนื่องจากมีปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่คายออกมาในเวลากลางคืนค่อนข้างน้อย นอกจากนี้ยังเป็นต้นไม้ที่คนชอบจัดสวนนิยมปลูก เนื่องจากปลูกง่าย เลี้ยงง่าย แถมยังออกดอกสีสันสดใสตลอดทั้งปี

บทความที่คุณอาจสนใจ

RECENT POSTS