อินทนิล ต้นไม้มงคลช่วยปกปักษ์บ้าน พร้อมช่อดอกอันวิจิตรงดงาม

อินทนิล
สารบัญบทความ
อินทนิล

อินทนิล ต้นไม้ที่มีความสำคัญอย่างมากทั้งในเรื่องของมูลค่าทางเศรษฐกิจ ความสวยงาม ความเชื่อ และการใช้ประโยชน์อันแสนหลากหลาย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากทุกคนจะสามารถพบเห็นต้นไม้ชนิดนี้ได้ทั่วไปโดยเฉพาะบริเวณป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ รวมถึงริมฝั่งแม่น้ำหลายสาย ถึงขนาดได้รับการขนานนามเป็น “ราชินีดอกไม้”

  • ชื่อสามัญ : Intanin หรือ Queen’s Flower, Queen’s Crape Myrtie
  • ชื่อวิทยาศาสตร์ : Lagerstroemia speciosa (L.) Pers.
  • วงศ์ : LYTHRACEAE

ชื่อท้องถิ่นของอินทนิลจะถูกเรียกต่างกันออกไปตามแต่พื้นที่ เช่น ต้นตะแบกอินเดีย, ต้นตะแบกดำ, ต้นกากะเลา(ภาษาอีสาน) ต้นซอง, ต้นฉ่องมู(ภาษากะเหรี่ยง – ภาษากาญจนบุรีบางพื้นที่), ต้นบางอบะซา ต้นบาเอ (แถบ 3 จังหวัดชายแดนใต้ และมาเลเซีย เป็นต้น มีลักษณะทางพฤษศาสตร์ที่น่าสนใจ ดังนี้

ต้นอินทนิล ความเชื่อ

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของต้นอินทนิล

อินทนิลคือไม้ยืนต้นในกลุ่มพรรณไม้ชนิดหนึ่งที่พบได้ทั่วไปตามพื้นที่ราบลุ่ม ป่าดิบชื้น ป่าเบญจพรรณ ริมฝั่งแม่น้ำ ลำธาร ห้วย คลอง ซึ่งในเมืองไทยจะพบเจอเยอะมากตามจังหวัดแถบภาคใต้ เป็นต้นไม้ประจำจังหวัดสกลนคร

ลำต้น

อินทนิล เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางค่อนไปทางใหญ่ ลำต้นเล็ก ระดับความสูงเฉลี่ยมีได้ตั้งแต่ 5 เมตร ไปจนถึง 20 เมตร ตอนเป็นต้นอ่อนด้านล่างลำต้นจะตรงแล้วค่อยคดงอแตกกิ่งก้านสาขาด้านบน แต่เมื่อโตจะตรงมากขึ้น เรือนยอดแผ่กว้างเหมือนกับร่มที่กางออก ผิวเปลือกของลำต้นสีน้ำตาลอ่อน หรือสีเทา สังเกตเห็นรอยด่างบางจุด รอยแตกร่อง หรือแผลเป็นได้ชัด เปลือกหนาราว 1 ซม.

ใบ

อินทนิลเป็นต้นไม้กลุ่มผลัดใบ ซึ่งใบผลิออกเร็วมาก มีลักษณะเป็นใบเดี่ยว งอกออกตรงข้ามแบบเยื้องกันเล็กน้อย ทรงใบแบบขอบขนาน หรือขอบขนานแกมรูปหอก เรียบเนียน ยาวประมาณ 1-26 ซม. กว้างประมาณ 5-10 ซม. เนื้อใบเกลี้ยง หนา มันทั้ง 2 ด้าน โคนใบโค้งมนสวยงาม ปลายใบเรียวจนสุดติ่งแหลม เส้นแขนงของใบมีระหว่าง 9-17 เส้น โค้งงอสวยงามจนไปบรรจบกับอีกเส้น ก้านใบยาวราว 1 ซม.

ต้นอินทนิล

ดอก

นี่คือความสวยงามและเสน่ห์ของต้นไม้ชนิดนี้คงไม่ใช่เรื่องผิดนัก ดอกจะออกแบบเป็นช่อเล็ก ๆ ใกล้กัน เมื่อมองจากภายนอกจึงเหมือนมีการรวมกันเป็นช่อขนาดใหญ่ ความยาวมีได้ถึง 30 ซม. กลีบดอกบาง ผิวกลีบมีลักษณะเป็นคลื่นนิดหน่อย สีของดอกมีอยู่เยอะพอควร แต่ที่พบเห็นได้บ่อยคือสีม่วงสด ม่วงอมชมพู หรือออกเป็นชมพูล้วนก็สวยงามไม่แพ้กัน ส่วนบนของดอกเป็นดอกตูมขนาดเล็ก ผิวนอกกลีบฐานดอกลักษณะคล้ายกรวยหงาย ขนสั้น ๆ ปกคลุมเล็กน้อย เกสรตัวผู้สีเหลืองจะมีเยอะมาก และเกสรตัวเมีย 1 อัน

ผลอินทนิล
ผลอินทนิล

ผล

ผลมีลักษณะเป็นวงรีคล้ายรูปไข่ ผิวเกลี้ยง ไร้ขน ขนาดกว้าง 1-2 ซม. ยาว 2-2.5 ซม. เปลือกนอกสีเขียว มีครีบปีกยึดเกาะกิ่งด้านบน ผลด้านในมีสีน้ำตาลแดง เมื่อแก่จนแตกออกจะแบ่งออกเป็นเสี่ยงสูงสุด 6 เสี่ยง สามารถมองเห็นเม็ดขนาดเล็กภายในได้

ราก

มีลักษณะเป็นรากแก้วขนาดใหญ่ 1 ราก และแบ่งย่อยเป็นรากฝอยอื่น ๆ สีน้ำตาล สำหรับใช้ดูดสารอาหารภายในดินขึ้นมาหล่อเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของต้น

ลักษณะเนื้อไม้

เนื้อไม้ของอินทนิลจะมีความแข็งในระดับปานกลางจึงได้รับความนิยมในการนำมาปลูกเป็นสิ่งก่อสร้างหลายชนิด อาทิ บ้านเรือน กระท่อม เพิงพัก ส่วนมากจะใช้เป็นการทำฝาผนัง พื้น ไม้คาน โครงสร้างหลังคา บางแห่งคนก็ใช้มุงหลังคาได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังสามารถนำไปทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่ง เรือแจวขนาดเล็ก เรือขนาดกลาง แจวพายเรือ เกวียน ถังไม้ ลังไม้ หีบไม้ ครก สาก จอบ เสียม พลั่ว เปียโน กระเดื่องกลอง ไม้สำหรับกั้นประตู กั้นร่องน้ำ ไปจนถึงหีบศพ

ความเชื่อของการปลูกต้นอินทนิล

ต้นอินทนิลความเชื่อที่อยู่คู่คนไทยจำนวนมากมาแสนนาน คนโบราณเชื่อว่านี่คือไม้มงคลหากปลูกเอาไว้ในบริเวณบ้าน หรือบนที่ดินของตนเองจะนำพาเอาความเป็นสิริมงคลให้กับทุกคนในครอบครัว ชีวิตก้าวหน้า ไม่ตกต่ำ

ยิ่งใครทำธุรกิจ ค้าขายจะมีกิจการรุ่งเรือง เงินทองไหลเข้ากระเป๋าแบบไม่ขาดมือ ซึ่งทิศที่นิยมปลูกคือ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของตัวบ้าน ยิ่งถ้าคนปลูกเป็นคนเกิดวันเสาร์ หรือปลูกโดยผู้ใหญ่ที่ได้รับความเคารพยำเกรงจากคนอื่นก็จะช่วยเสริมความเป็นมงคลให้มากขึ้นไปอีก

ทั้งนี้จากความหมายของ อินทนิล หมายถึง พระอินทร์ผู้เป็นใหญ่บนชั้นสรวงสวรรค์ มีฤทธานุภาพสูง จึงช่วยป้องกันมารผจญ ศัตรูร้าย หรืออันตรายต่าง ๆ ไม่ให้ย่างกรายเข้ามาหา

ดอกอินทนิล

การขยายพันธุ์

ปกติแล้วการปลูกและขยายพันธุ์ของต้นอินทนิลจะใช้วิธีเพาะด้วยเมล็ด วิธีปลูกไม่ยุ่งยากให้ทำการขุดหลุมขนาดไม่ต้องใหญ่มาก ซึ่งปลูกดินควรเป็นดินร่วนหรือดินร่วนปนดินทรายเล็กน้อย อาจมีการผสมขุยมะพร้าวลงไปในอัตราส่วน 1:1 เพื่อให้ดูดซับน้ำและถ่ายเทอากาศได้ดี เมื่อหยอดเมล็ดลงไปในหลุมเรียบร้อยให้กลบหน้าดินบาง ๆ พรมน้ำเล็กน้อยสร้างความสดชื่นและการเจริญเติบโตที่ดี

บางแห่งก็มีการนำเอาฟางคลุมไว้บนหน้าดิน ประมาณ 15-20 วัน ต้นอ่อนจะค่อย ๆ ผุดขึ้นมา และเมื่อเวลาผ่านไปราว 3-4 เดือน ขนาดต้นกล้าจะสูงขึ้นราว 20 ซม. จากนั้นจึงค่อยย้ายต้นกล้าดังกล่าวออกมาปลูกในแปลง หรือพื้นที่ต้องการเพาะปลูกต่อไป ส่วนต้นอินทนิลที่ขึ้นอยู่ตามป่า ริมแม่น้ำต่าง ๆ จะเกิดการขยายพันธุ์ของตนเองตามวิถีธรรมชาติ

อินทนิลบกและอินทนิลน้ำต่างกันอย่างไร

จากที่ได้อธิบายเกี่ยวกับต้นอินทนิลจริงแล้วหากเจาะลึกลงไปจะมีการแบ่งออกเป็น 2 สายพันธุ์ นั่นคือ อินทนิลบก และ อินทนิลน้ำ สังเกตความแตกต่างได้ ดังนี้

ลักษณะอินทนิลน้ำอินทนิลบก
1.ความสูง10-25 เมตร8-15 เมตร
2.เรือนยอดแผ่กว้างทรงสูง
3.เปลือกต้นผิวเรียบและมีรอยด่างผิวขรุขระมีเกล็ดเปลือกตามต้น
4.ใบโคนใบมน ปลายใบแหลมโคนและปลายใบมนกว่า
5.ดอกขนาดดอกเมื่อบาน 6-7.5 cmขนาดดอกเมื่อบาน 7-12 cm
6.ผลความยาว 2-3 cmความยาว 3-4 cm
จุดสังเกตระหว่างอิทนิลน้ำและบก
อินทนิลบก
ใบอินทนิลบก
อินทนิลน้ำ
ใบอินทนิลน้ำ
  • อินทนิลบก (ชื่อวิทยาศาสตร์ Lagerstroemia macrocarpa Wall. ex Kurz)จะมีขนาดของดอกและผลใหญ่กว่า ปลายใบมน ไม่มีสรรพคุณทางยาใด ๆ ช่อดอกสั้น
  • อินทนิลน้ำ (ชื่อวิทยาศาสตร์ Lagerstroemia speciosa (L.) Pers.) ต้นจะสูงได้มากกว่าอินทนิลบกเล็กน้อยใบจะมีขนาดแคบกว่าแต่ยาวมากกว่า ปลายใบแหลมกว่า ช่อดอกยาวกว่า มีสรรพคุณทางยาที่มักใช้เป็นสมุนไพรรักษาโรคมาตั้งแต่ยุคโบราณ

ประโยชน์และสรรพคุณทางยาของอินทนิล

  1. นิยมใช้เนื้อไม้เพื่อการปลูกสร้างบ้านเรือน เพิงพัก กระท่อม และทำอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ เช่น อุปกรณ์ทำการเกษตร เครื่องครัว เครื่องดนตรี ยานพาหนะ หีบศพ
  2. ด้วยตัวดอกที่มีขนาดใหญ่เกาะกลุ่มกันเป็นพุ่ม บวกกับสีสันที่สวยงาม ลำต้นมีขนาดสูงใหญ่ จึงมักถูกปลูกเพื่อให้ความร่มเงา รวมถึงปลูกเพื่อสร้างความผ่อนคลาย ความสวยงามให้กับพื้นที่นั้น ๆ
  3. มีสรรพคุณทางยาในฐานะพืชสมุนไพรที่หลากหลายซึ่งตำรับแพทย์แผนไทยสมัยก่อนก็มีการนำต้นไม้ชนิดนี้เป็นส่วนผสมเยอะมาก หากแบ่งสรรพคุณตามส่วนต่าง ๆ ของต้น จะแยกได้ดังนี้
  • เปลือกนอก มีรสฝาดถึงขม นิยมใช้เพื่อรักษาอาการไข้หวัด และอาการท้องเสีย
  • ราก มีรสขมมาก แก้อาการแผลในปาก ลำคอ และช่วยสมานท้องให้ความเจ็บปวดทุเลาลง
  • ใบ มีรสจืด แอบฝากและขมนิด ๆ เย็น นิยมใช้ต้มหรือลงดื่มเพื่อบรรเทาอาการโรคเบาหวาน ลดระดับความดันโลหิต และช่วยขับปัสสาวะได้ดี
  • เมล็ด มีรสขมมาก ลดระดับน้ำตาลในเลือด ควบคุมเบาหวานไม่ให้เกิดความเสี่ยงรุนแรง แก้อาการนอนไม่หลับ
  • แก่น มีรสขมมากเช่นกัน นิยมนำไปต้มดื่มเพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะ และโรคเบาหวาน
ต้นอินทนิล

อินทนิลราคาเท่าไหร่ หาซื้อได้ที่ไหน

ราคาของต้นอินทนิลจะขึ้นอยู่กับอายุที่ปลูก มีตั้งแต่หลักสิบ หลัก 100 บาท ไปจนถึงหลายร้อยบาท สามารถหาซื้อได้ไม่ยาก จากแหล่งจำหน่ายต้นไม้ ดอกไม้ต่าง ๆ หรือตลาดต้นไม้ทั่วไป สวนที่ปลูกต้นไม้ชนิดนี้ขาย รวมถึงปัจจุบันยังสามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้

บทสรุป

อินทนิล ถือเป็นต้นไม้อีกชนิดที่มีคุณค่าแบบครบทุกด้านไม่ว่าจะเป็นประโยชน์ของการใช้งานจริง ทั้งเรื่องของการเปลี่ยนสภาพเป็นสิ่งปลูกสร้าง ของใช้ต่าง ๆ ด้านสุขภาพยังเน้นไปที่ผู้มีปัญหาเกี่ยวกับโรคเบาหวาน สร้างความสวยงาม แผ่กิ่งก้านเพิ่มความร่มรื่นให้กับพื้นที่ พบเห็นได้ทั่วไปทั้งจากตามบ้านเรือน ป่าดิบชื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ ตามริมแม่น้ำ คลอง ลำธารต่าง ๆ

ใครสนใจปลูกต้นอินทนิล ก็ลองหาซื้อตามแหล่งเพาะพันธุ์ขาย ตามสวนต่าง ๆ ราคาก็แสนถูกเพียงหลักสิบเท่านั้น และยังเป็นต้นไม้ตามความเชื่อโบราณในด้านบวกของคนไทยอีกด้วย

บทความที่คุณอาจสนใจ

RECENT POSTS