พูดถึงต้นสนบลูในตอนนี้นับว่าเป็นไม้จะสวนที่หลายคนให้ความสนใจมากขึ้น เพราะเป็นไม้ที่มีดีในตัวมากมายจริง ๆ แถมเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์หายาก แต่กลับนำมาใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ซึ่งหลัก ๆ ในปัจจุบันนิยมนำมาใช้ประโยชน์ทั้งการตกแต่งบ้าน สวนเป็นต้น แต่จริง ๆ แล้ววยังมีประโยชน์อีกหลายอย่างด้วยกัน ดังนั้นวันนี้เราจะมาเล่าถึงข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับต้นไม้ต้นนี้กันว่ามีความสนใจมากน้อยแค่ไหนกันบ้าง
ต้นสนบลูคืออะไร และความเป็นมาน่าสนใจอย่างมาก
เริ่มต้นกันที่ทำความรู้จักกับต้นสนบลูมากขึ้นด้วยคำตอบของคำถามว่าสนบลูคืออะไรกันก่อน ซึ่งไม้ชนิดนี้คือไม้ยืนต้นที่มีความเขียวชะอุ่มตลอดทั้งปี สามารถโตได้ถึง 200 ฟุตและมีความกว้างมากถึง 4-7 ฟุต โดยมีอายุยืนและเป็นไม้เนื้อแข็งที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจสูงมาก ส่วนลักษณะเฉพาะตัวของต้นสนสายพันธุ์นี้คือลำต้นตั้งสูงตรง ใบสีเขียวอมฟ้าน้ำเงิน สวยงาม และมีกลิ่นอ่อน ๆ เฉพาะตัว ทำให้มีความสวยงามแปลกตาและโดดเด่นอย่างมาก จึงเป็นต้นไม้ที่ทำให้ทุกคนต้องหามาปลูกทันที ส่วนต้นกำเนิดของต้นไม้ชนิดนี้คือเทือกเขาฝั่งอเมริกาเหนือก่อนจะถูกนำไปแพร่ขยายพันธุ์ในประเทศต่าง ๆ ในเวลาต่อมา
ลักษณะทั่วไปดังนี้
- ลำต้น: เป็นไม้ที่จัดอยู่ในประเภทไม้พุ่ม เป็นต้นตรงแคบ ๆ มีเปลือกสีน้ำตาลเข้มจนถึงดำ
- ใบ: จะเป็นใบเดี่ยวแบบเรียงเวียนและสลับเป็นขนนก ใบเรียวเล็กปลายใบจะแหลมและมีความอวบปนหนา ผิวใบจะมีลักษณะเกล็ดยาว 0.15 นิ้วโดยจะซ่อนกิ่งก้านเป็นระนาบแบน และมักจะมีสีเขียวอมฟ้าเล็กน้อย ส่วนใบจะมีกลิ่นคล้าย ๆ กับผักชีฝรั่ง
- ดอก: จะมีขนาดเล็กโดยจะเหมือนดอกตูมติดอยู่ที่ปลายกิ่ง จะออกในช่วงฤดูกาลใบไม้ผลิ โดยดอกตัวผู้จะมีสีแดงเข้ม มีเกสรสีเหลือง ตัวเมียเป็นสีน้ำเงิน และมีโคนเรณูยาว 0.14 นิ้ว สีแดงเข้ม จากนั้นจะเริ่มเป็นสีน้ำตาลหลังจากปล่อยเรณูเรียบร้อยแล้ว
- ผล: เมื่อดอกได้รับการผสมจะเริ่มเป็นสีเขียว และเปลี่ยนเป็นสีครีมในที่สุด จากนั้นจึงจะเริ่มสิ้นสุดเป็นสีน้ำตาลในเวลาต่อมา โดยผลจะมีขนาดเล็กมีเส้นผ่าศูนย์กลางที่ 8-12 มิลลิเมตร มีกลีบ 5-9 กลีบ ข้างในมีเมล็ด
- เมล็ด: มีลักษณะกลม โดยใน 1 ผลจะมีเมล็ดทั้งหมด 6-10 เกล็ด ตอนแรกจะมีสีเขียวแต่เมื่อสุกจะมีสีน้ำตาล
วิธีการปลูกและการดูแล
ส่วนการปลูกต้นสนไม่ยากเลยถึงแม้ว่าจะเป็นมือใหม่เพิ่งเริ่มต้นจบทางการปลูกต้นไม้ก็ตาม เพราะต้นไม้ชนิดนี้ปลูกง่ายโตไวสุด ๆ ซึ่งการขยายพันธุ์สามารถทำได้ด้วยการปักชำกิ่ง จากนั้นเมื่อได้กิ่งที่ต้องการแล้วเริ่มนำลงสู่การดูแล โดยการดูแลต้นไม้ชนิดนี้หลังปลูกคือ จะต้องปลูกในที่มีแสงส่องถึงตลอดเวลา ส่วนน้ำจะต้องให้ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ และไม่ควรปล่อยให้ดินแห้งจนเกินไป เนื่องจากสนชนิดนี้ไม่ใช่สนที่สามารถทนแล้งได้ดีมากนัก จึงเป็นไม้ที่ต้องให้น้ำบ่อย ๆ ปุ๋ยห้ามเป็นปุ๋ยคอกเด็ดขาด และต้องระวังศัตรูพืชคือ เพลี้ยแป้งและมดเป็นพิเศษ
ประโยชน์ที่ได้จากต้นไม้ชนิดนี้
ส่วนประโยชน์ที่ได้จากต้นสนบลู (Lawson’s Cypress) มีหลายข้อด้วยกัน ซึ่งแต่ละข้อรับรองว่าจะช่วยเพิ่มความมั่นใจว่าปลูกต้นนี้แล้วจะไม่ผิดหวังคือ
- ประดับสวนให้ดูสวยงามมากขึ้น ซึ่งสามารถปลูกให้เข้ากับสวนได้ทุกสไตล์
- ปลูกเป็นแนวกั้นรั้วได้เนื่องจากเป็นไม้พุ่มเตี้ย
- เป็นไม้ฟอกอากาศได้ดี โดยสามารถนำมาเลี้ยงในบ้านได้ทุกโซน
สรุป ต้นไม้สีสวยที่หลายคนเลือกปลูกมากขึ้น
ทั้งนี้ต้นสนบลูในปัจจุบันกำลังเป็นที่นิยมสูงมาก และจากข้อมูลเบื้องต้นจะเห็นได้เลยว่าเป็นไม้ที่ใช้ประโยชน์ได้หลากหลายจริง ๆ ส่วนราคาในปัจจุบันไม่ได้แรงมากนัก ยิ่งเป็นไม้ฟอกอากาศด้วยยิ่งทำให้เป็นตัวเลือกสำหรับคนรักต้นไม้ และกำลังหาไม้ประดับสักต้นหนึ่งเพื่อปลูกไว้ในบ้าน สำหรับเป็นเครื่องฟอกอากาศจากธรรมชาติ พร้อมความสวยงามมีเสน่ห์ บวกกับมีกลิ่นหอม ๆ ภายในบ้านไปในตัว preserved-flower.biz
บทความเพิ่มเติม
